โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs หรือ STI) ที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมวิธีป้องกัน
ทุกความสัมพันธ์มักมีโรคร้ายแฝงอยู่ หลายคนคงเคยได้ยินโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มาบ้างหรือศัพท์ภาษาอังกฤษทั่วไปพูดติดหูกันว่า STDs (Sexually Transmitted Disease หรือ STI) ซึ่งโรคร้ายนี้สามารถติดกันผ่านการมี SEX โดยที่ไม่ป้องกัน วันนี้เราจะมารู้จักกับโรคร้าย ทั้งสาเหตุ อาการและวิธีการป้องกันอย่างถูกวิธี และที่ควรทำ
STDs หรือ STI โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คืออะไร
คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อซึ่งสามารถติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกันทั้งช่องคลอด, ทางปาก หรือทางทวารหนักเป็นต้น โดยโรคสำคัญที่พบหลักๆ จะเป็นโรคซิฟิลิส, หนองในแท้, หนองในเทียม, เริมและเอชพีวี รวมไปถึงเอดส์
สาเหตุของการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นเป็นโรคร้ายที่ใครๆ ก็สามารถเป็นได้หากไม่มีการป้องกันการมี SEX อย่างถูกวิธี หรือบุคคลที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงที่เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้สูง ซึ่งสาเหตุของการติดเชื้อ สามารถแบ่งได้หลักๆ เป็น 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น
ประเภทของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
อยากที่ทราบกันดีว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีหลากหลายประเภท และแต่ละประเภทก็แสดงอาการแตกต่างกันออกไป โดยเราจำแนกเป็น 5 ประเภทที่สำคัญให้เข้าใจง่ายดังนี้
- ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่คนส่วนใหญ่มักเป็นกัน
ลักษณะอาการเด่น : อวัยวะเพศมีแผล มีผื่นขึ้นลำตัวและทวารหนัก ผมร่วง ปวดข้อตามกระดูก
ระยะสุดท้ายของโรคหากไม่ได้รับการรักษา : บริเวณที่เกิดแผลแตกและอักเสบ และส่งผลให้เกิดอาการตาบอด หูหนวก สมองพิการ และอาจทำให้เสียชีวิตซึ่งร้ายแรงที่สุด
- หนองในแท้ ส่วนใหญ่มักเกิดในเพศชาย ซึ่งมีอาการเด่นๆ บริเวณปลายท่อปัสสาวะ
ลักษณะอาการเด่น : เพศชายเมื่อปัสสาวะแล้วรู้สึกติดขัด มีหนองไหลออกบริเวณปลายท่อปัสสาวะ ส่วนเพศหญิงมักมีอาการแสดงที่น้อย เช่น ตกขาวเยอะ
ระยะสุดท้ายของโรคหากไม่ได้รับการรักษา : อาการอาจลุกลามทำให้เกิดอุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือท่ออสุจิตีบตัน ต่อมลูกหมากอักเสบ และทำให้เป็นหมันในที่สุด
- เริม สามารถเกิดได้ในบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก หรือแม้แต่บนริมฝีปาก
ลักษณะอาการเด่น : ลักษณะเด่นๆ คือ มีตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่มๆ ก่อให้เกิดอาการปวด แสบ และคัน พบได้ในบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก รวมทั้งในช่องปาก
ระยะสุดท้ายของโรคหากไม่ได้รับการรักษา : อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บแสบคันมากขึ้น และเมื่อร่างกายอ่อนแอก็ก่อให้เกิดโรคเริมกำเริบขึ้นได้อีกครั้ง
- เอชพีวี เป็นไวรัสร้ายที่ก่อให้เกิดโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก ซึ่งส่งผลให้เกิดมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งทวารหนัก
ลักษณะอาการเด่น : หลังติดเชื้อมักแสดงอาการ 2 แบบ คือ อาการหูดหงอนไก่ เกิดเป็นติ่งเนื้อ หรือผิวขรุขระบริเวณอวัยเพศ และซ้ำร้ายอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งทวารหนัก
ระยะสุดท้ายของโรคหากไม่ได้รับการรักษา : หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งตามมา
- เอดส์ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งโรคชนิดนี้ในอดีตถือว่าร้ายแรงเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนายารักษาทำให้ผู้ที่เป็นทานแล้วสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
ลักษณะอาการเด่น : มีการติดเชื้อเป็น 3 ระยะ ซึ่งช่วงแรกจะน้ำหนักลดลง ซูบผอมเหนื่อยผิดปกติและมีผื่นขึ้นตามตัว
ระยะสุดท้ายของโรคหากไม่ได้รับการรักษา : อาจทำให้เสียชีวิตหรือเกิดโรคแทรกซ้อนตามมา
ที่มา : synphaet
อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
หากคุณมีความเสี่ยงที่อาจติดโรคทางเพศสัมพันธ์ หรือกำลังมีแพลนจะแต่งงานต้องการสร้างความมั่นใจให้คู่รัก ในปัจจุบันมีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่รวดเร็วและง่าย ดังนี้
- ตรวจทางเลือดและปัสสาวะ เป็นวิธีที่ง่าย และประหยัดเวลา สามารถพบโรคร้ายได้ทั้งเชื้อเอชไอวี เริม หนองใน ซิฟิลิส และไวรัสตับอักเสบ
- ตรวจภายใน ช่วยสังเกตอาการเริ่มต้นของมะเร็งปากมดลูก ซึ่งมะเร็งปากมดลูก อาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อ HPV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั่นเอง
- ตรวจสารคัดหลั่ง สามารถเก็บจากตัวอย่างอวัยวะเพศ ปากมดลูก ทางเดินปัสสาวะ หรือทวารหนัก เพื่อนำสารคัดหลั่งไปตรวจหาเชื้อได้เช่นกัน
- ตรวจร่างกายภายนอก ในการตรวจประเภทนี้ จะพบเจออาการเมื่อถึงระยะที่อาการแสดงผลแล้ว เช่น การเกิดเริม หูด หรือซิฟิลิส
การรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมักเกิดจากตัวการของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส การรักษาโรคจึงควบคู่กับการทานยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส และการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน
ที่มา : staystifree
การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
หลังจากที่รู้ประเภท และอันตรายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว เรามารู้วิธีการป้องกันให้ปลอดภัย เพื่อช่วยลดอัตราการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อให้ทั้งคุณและคู่นอนปลอดภัยไร้โรคร้าย
- ใช้แผ่นยางทันตกรรม เป็นตัวช่วยในการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ทางปากหรือออรัลเซ็กให้ปลอดภัยไม่ติดโรค เพราะการใช้ปากก็อาจทำให้เกิดโรคเริมได้
- หากคุณมีเพศสัมพันธ์กับคนมากกว่าหนึ่งคน ควรเปลี่ยนถุงยางให้ใหม่สำหรับแต่ละคนเท่านั้นห้ามใช้ซ้ำ
- ใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำ ระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ควบคู่กับถุงยางอนามัยเพื่อลดโอกาสการฉีกขาดของถุงยางอนามัย แนะนำ myONE OASIS Premium Personal Lubricant เจลหล่อลื่น มายวัน โอเอซิส
เจลหล่อลื่นเป็นตัวช่วยให้ลดโอกาสถุงยางแตก หรือขาดเสียหายได้ ซึ่งเจลหล่อลื่น มายวัน โอเอซิส เป็นเจลหล่อลื่นสูตรน้ำแบบอ่อนโยน ใช้ได้ทั่วไป ช่วยเพิ่มสัมผัสผ่อนคลายและปลอดภัยให้กับจุด เพิ่มความชุ่มฉ่ำได้นาน ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านหลังใช้งาน สามารถใช้ร่วมกับถุงยางอนามัยได้ ผลิตจากยางธรรมชาติ และยางสังเคราะห์ ผิวแห้งง่ายก็สามารถใช้ได้
- ใช้ถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ช่วยลดเปอร์เซนต์การเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นควรเลือกถุงยางอนามัยที่มีคุณภาพและได้รับมาตรฐานสากล เลือก myONE Ultima Lite Condom 12's / ถุงยางอนามัย มายวัน อัลติมา ไลท์ 12 ชิ้น
ถุงยางอนามัยรุ่นบางพิเศษ มีความบางเพียง 0.03 มม. คงไว้ซึ่งคุณภาพและความปลอดภัยในการใช้งาน ทุกชิ้นผลิตด้วยเทคโนโลยี Sensatex® นวัตกรรมที่ทำให้เนื้อยางมีความนุ่มมากเป็นพิเศษ และเทคโนโลยี TotalGlide™ ที่ทำให้ถุงยางอนามัยมีสารหล่อลื่นอย่างทั่วถึงตั้งแต่ฐานจนถึงปลาย ผลิตตามมาตรฐานสากล ISO4074:2015 ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์ที่ ผ.4/2562
มีเพศสัมพันธ์ผิดวิธี ชีวิตเปลี่ยนได้ แต่หากรู้วิธีการป้องกันเช่นการใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐานก็ช่วยป้องกันการเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลตนเอง เผื่อที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับตัวคุณเองและคู่นอนของคุณกัน
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เพื่อสร้างชุมชน ที่พร้อมแบ่งปันความรู้ ความรัก และความคิดสร้างสรรค์ ไปด้วยกัน เพราะเราเชื่อว่า “รวมกันเราเป็นหนึ่ง” (Together we are ONE) ผลิตภัณฑ์ myONE™ ของเรามีวางจำหน่ายที่ Lazada Official Store, Shopee Official Store และ Watsons (ร้านค้าและออนไลน์)
สามารถติดตาม myONE™ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ที่นี่
IG: https://www.instagram.com/myone_thailand/
Twitter: https://twitter.com/myonecondoms_th
TikTok: https://www.tiktok.com/@myonecondoms.th
Website: https://www.myonethailand.com/
แหล่งอ้างอิง